มาดู! รูปแบบอีเมลล์ ที่ควรนำมาใช้ในการตลาดของคุณ [ตอนที่ 1]

เขียนอีเมล์ทางการตลาดให้น่าสนใจ ไม่ล้มเหลว ต้องนี่เลย!!

ในโลกออนไลน์นั้นเต็มไปด้วยข้อมูลที่มากมาย ทั้งเคล็ดลับ เทคนิค และคำแนะนำต่างๆ ว่าเราควรจะทำการตลาดแบบไหน  หรือแม้แต่เรื่องราวพื้นฐานทั่วไปที่หากต้องการทำการตลาดด้วยอี-เมลล์แล้วล่ะก็ นี่คือสิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้ ไม่ว่าจะเป็น

เราควรจะเขียนอีเมลล์ของเราอย่างไร ?
เราจะสร้างปุ่มที่จะช่วยให้เกิด call-to-action (ปุ่มที่จะช่วยนำพากลุ่มเป้าหมายไปสู่หน้าเว็บไซต์ที่เราต้องการ) อย่างไร ?
เราควรเขียนอีเมลล์แบบไหนเพื่อให้ได้ลิสต์รายชื่อลูกค้าที่เราต้องการ ?

เพื่อที่จะสร้างอี-เมลล์ที่มีประสิทธิภาพที่สุดและสามารถตอบโจทย์ตามความต้องการที่กล่าวมาข้างบนได้ เราต้องเสียเวลาไปอย่างมากมายในการออกแบบเนื้อหาเมื่อเราต้องการส่งอี-เมลล์ออกไปสำหรับแจ้งข่าวสารและแคมเปญต่างๆ มันเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็รู้ว่าถ้าต้องการให้เมลล์ที่เราส่งออกไปนั่นได้ผล เราก็ต้องทำให้เมลล์นั้นน่าสนใจมากพอ!!

แล้วอี-เมลล์แบบไหนกันล่ะที่น่าติดตาม ?

แน่นอนว่าหากเราใช้บริการส่งอี-เมลล์ของที่ไหนสักที่ เราจะพบว่ามันมีรูปแบบหรือแทมเพลตมากมายให้เราเลือกใช้ได้ตามที่ต้องการ แต่วันนี้เราจะไม่ได้มาพูดถึงเรื่องการดีไซน์หรือไอเดียในการออกแบบอี-เมลล์เท่านั้น แต่วันนี้ ตลาดปัญญา.com จะพาทุกท่านไปรู้จัก รูปแบบของอีเมลล์ต่างๆ ที่ทุกท่านจะสามารถนำไปใช้เพื่อเป็นไอเดียในการส่งอีเมลล์สำหรับธุรกิจของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อีเมลล์สำหรับแจ้งข้อมูลข่าวสารทั่วๆ ไป

อีเมลล์สำหรับแจ้งข้อมูลข่าวสารนั้น ถือได้ว่าเป็นอีเมลล์ที่คุณสามารถส่งให้ผู้รับ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้พวกเขาได้ทราบเกี่ยวกับข่าวสารใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โปรโมชั่นใหม่ๆ  เคล็ดลับสำคัญก็คือ คุณควรที่จะส่งอีเมลล์ประเภทนี้ให้เฉพาะสมาชิกที่ยินดีรับสมัครข่าวสารจากคุณเท่านั้น

เราลองมาดูเคล็ดลับการส่งอีเมลล์ แยกเป็นหัวข้อๆ ย่อยแบบชัดเจนกันดีกว่าค่ะ ว่าแตกต่างกันอย่างไร

 

1.แจ้งเรื่องราวใหม่ๆ เหตุการณ์ใหม่ๆ ในแบรนด์ของเรา

นี่คืออีเมลล์อีกรูปแบบหนึ่งที่เราเชื่อว่า หลายๆ คนต้องรู้จักอย่างแน่นอน (และใช้บ่อยด้วย) เพราะบางครั้งเวลาแผนกการตลาดไม่รู้จะส่งเรื่องอะไร พวกเขาก็จะส่งเรื่องราวเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าใหม่ๆ, E-book แจกฟรี,สัมมนา,คูปองส่วนลดต่างๆ

โดยส่วนใหญ่อีเมลล์ในลักษณะนี้จะถูกใช้เพื่อบอกเล่าและโปรโมทแคมเปญต่างๆ ที่แผนกการตลาดต้องการนำเสนอให้กับลูกค้า ซึ่งโดยทั่วๆ ไปแล้ว อีเมลล์เหล่านี้จะต้องมีปุ่มหรือลิ้งค์ให้ผู้อ่านได้กดเข้าไปต่อ เพื่อนำไปสู่หน้า  landing page ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเสนอสิ่งที่เราต้องการให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้

ในเรื่องของการออกแบบอีเมลล์ประเภทนี้นั้น ส่วนใหญ่จะใช้การออกแบบที่กำหนดรูปแบบไว้อยู่แล้ว โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อให้ลูกค้าจำหน้าตาของแบรนด์ได้  ไม่ต้องสับสนทุกครั้งที่เปิดอีเมลล์ของเราว่า นี่เป็นเมลล์จากที่ไหน ของแบรนด์อะไร เมลล์ขยะหรือเปล่า

ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เราต้องสร้างปุ่มกดที่ชัดเจน และทำให้แน่ใจว่ามันจะพากลุ่มเป้าหมายไปยังหน้า  landing page ที่ถูกต้อง และใช้ภาษาที่กระตุ้นให้เกิดการกระทำ เช่น คลิกที่นี่,ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเป็นต้น

 

2. แจ้งสินค้าและบริการใหม่ๆ

อีเมลล์ที่ใช้เสนอขายสินค้าและบริการใหม่ๆ นั้นจำเป็นต้องใช้เทคนิคในระดับหนึ่ง และที่สำคัญคือ อย่าส่งบ่อยเกินไปและส่งให้กับผู้อื่นที่ไม่ใช่สมาชิกแบรนด์ของคุณอย่างเด็ดขาด เพราะนั่นจะทำให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาถูกขายโดยไม่เต็มใจจะรับรู้

สำหรับการส่งอีเมลล์ในลักษณะนี้นั้น บริษัทส่วนใหญ่มักจะส่งประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้น หรือบางทีก็ส่งแค่เดือนละครั้ง เพื่อเป็นการแจ้งให้สมาชิกได้ทราบถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียดขายของจนเกินไป (เช่น ส่งให้ทุกวัน!!)

สิ่งที่สำคัญในการส่งอีเมลล์ลักษณะนี้ คือ การนำเสนอสินค้าละบริการอย่างตรงไปตรงมา มีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย หัวข้อชัดเจน มีรายละเอียดที่น่าเชื่อถือ และมีรูปภาพโชว์สินค้าที่สะดุดตา น่าสนใจ

สำหรับอีเมลล์แบบนี้นั้น ส่วนใหญ่จะมีการวางแผนในการคัดสรรสินค้าและบริการที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา โดยแผนกการตลาดจะวิเคราะห์ว่า สินค้าและผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่มีนั้น ควรจะส่งอีเมลล์แจ้งในรูปแบบไหน หากมีสินค้าใหม่บ่อยๆ อาจจะเป็นสัปดาห์ละครั้ง หรือหากไม่ค่อยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ก็อาจจะส่งเพียงเดือนละครั้ง หรืออีกกลยุทธ์หนึ่งคือการเลือกเสนอขายสินค้าให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของแต่ละช่วงเวลา โดยการวิเคราะห์ว่าช่วงนี้ ผู้คนสนใจอะไรเป็นพิเศษ แล้วนำเสนอให้สอดคล้องกับความต้อการของพวกเขา

ลองมาดูตัวอย่างอีเมลล์กันเลยค่ะ

email-1

3. Digital Magazine or Newsletter (จดหมายอิเล็กทรอนิกส์)

ความผิดพลาดร้ายแรงที่หลายบริษัทมักจะมองข้ามไปก็คือ ไม่มีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือนิตยสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้สำหรับส่งให้ลูกค้า!!  เพราะสิ่งเหล่านี้นั้นมีประโยชน์ในด้านการสร้างความเชื่อมั่นและความภักดีที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ของเราเป็นอย่างมาก

หลายบริษัทนั้นจะมีการจดหมายอีเล็กทรอนิกส์เพื่อใหช้สำหรับเผยแพร่เรื่องราวหรือบทความที่น่าสนใจต่างๆ ไว้สำหรับเผยแพร่ให้กับสมาชิกในทุกๆ สัปดาห์หรือทุกๆ เดือน และอีเมลล์ก็เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มช่องทางให้ผู้คนเข้าถึงธุรกิจของคุณมากขึ้น

สำหรับการออกแบบอีเมลล์เหล่านี้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการตั้งหัวข้อให้น่าสนใจ รวมถึงการสรุปเนื้อหาสั้นๆ ที่น่าดึงดูดและมีประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้ผู้อ่านสนใจที่จะอ่านต่อไป หรือกดปุ่ม action ต่างๆ เพื่อเข้าสู่หน้าเว็บไซตืหรือบล็อกที่เผยแพร่เรื่องราวของเรา สำหรับรูปแบบที่คุณมักจะเห็นบ่อยๆ จากอีเมลล์ประเภทนี้ ลองมาดูตัวอย่างที่ภาพด้านล่างกันเลยค่ะ

mail-2

 

4. เชิญร่วมงานหรือ Event ต่างๆของธุรกิจ

อีเมลล์นั้นไม่เพียงแต่จะเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ดีในการแจ้งข่าวสารและโปรโมชั่นเท่านั้น แต่ยังเปรียบเสมือบัตรเชิญมาร่วมงานต่างๆ ของคุณด้วย แต่สิ่งสำคัญที่สุด ถ้าอยากให้การเชิญชวนผู้คนมาร่วมงานหรือกิจกรรมต่างๆ ของคุณนั้นประสบความสำเร็จ ก็คือคุณต้องนำเสนอรายละเอียดงานที่ชัดเจน เข้าใจง่าย ว่างานของคุณนั้นเป็นงานอะไร และผู้เข้าร่วมงานจะได้อะไรจากงานนี้บ้าง

วิธีการออกแบบเมลล์ที่ดีที่สุดในรูปแบบนี้คือ การออกแบบให้ดูสบายตา และน่าอ่าน โดยปกติแล้วการร่วมงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานสัมมนา หรืองานอื่นๆ มักจะมีค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว แต่คุณไม่ควรใส่มันลงไปทันทีในอีเมลล์นี้ แต่ให้คุณใส่ประโยชน์ที่จะได้รับจากงาน หรือบอกพวกเขาว่ามันวิเศษอย่างไรหากคุณได้เข้าร่วมงานครั้งนี้  แล้วค่อยสร้างปุ่ม (Call-to-Action) ที่จะพาไปยังหน้า Landing Page ที่แจ้งเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ อีกครั้งหนึ่ง

ลองมาดูตัวอย่างอีเมลล์ลักษณะนี้กันค่ะ

email-3

5. อีเมลล์แจ้งสำหรับพาร์ทเนอร์หรือผู้ร่วมธุรกิจ

สำหรับบางธุรกิจนั้นอาจมีผู้ร่วมธุรกิจ พาร์ทเนอร์ ในการร่วมทำธุรกิจด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อเป้าหมายต่างๆ เช่น เรื่องโปรโมชั่น งานอีเว้นท์ หรือเหตุผลทางธุรกิจด้านอื่นๆ  ดังนั้นอย่าลืมที่จะส่งอีเมลล์เพื่อแจ้งข่าวสาร และอัพเดตเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ของแบรนด์ธุรกิจเราเพื่อให้พวกเขาทราบด้วย

สำหรับอีเมลล์ที่ใช้ส่งให้กับผู้ร่วมธุรกิจหรือพาร์ทเนอร์นั้น ควรจะส่งเนื้อหาที่มีประโยชน์ต่อผู้ร่วมธุรกิจ ไม่ควรเขียนแบบเดียวกับที่ส่งให้ลูกค้าของเราเป็นอันขาด แม้จะเป็นเรื่องเดียวกัน แต่คุณก็ควรเขียนขึ้นมาใหม่เนื่องจากผู้อ่านนั้นเป็นคนละกลุ่มกัน คุณควรจะส่งการอัพเดตต่างๆ แผนการโปรโมท หรือแจ้งโครงการใหม่ กิจกรรมใหม่ๆ ของคุณ เพื่อทำให้พวกเขาเห็นว่าธุรกิจของคุณมีความน่าเชื่อถือ และยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่คุณจะใส่โลโก้ของแบรนด์คุณลงไปในอีเมลล์นี้ด้วย เพื่อช่วยให้พวกเขาจดจำคุณได้มากขึ้น
การส่งอีเมลล์ให้กับผู้ร่วมธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้พวกเขาจดจำคุณได้ และนึกถึงแบรนด์ของคุณ นั่นเหมือนกันเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ร่วมธุรกิจ ซึ่งนี่ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์พื้นฐานในการดำเนินธุรกิจเลยล่ะค่ะ ดังนั้นอย่ามองข้ามเรื่องนี้เป็นอันขาดเลยนะคะ

สำหรับอีเมลล์ 5 รูปแบบที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้ ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในการทำการตลาดเลยทีเดียว เชื่อได้เลยว่าหากคุณให้ความใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้ย่อมส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณอย่างแน่นอนค่ะ

อย่างไรก็ตาม รูปแบบของอีเมลล์ในด้านการตลาดนั้นไม่ได้มีเพียงเท่านี้นะคะ แต่ยังมีรูปแบบอีเมลล์ที่เรียกว่า Transnational Emails ซึ่งเป็นอีเมลล์ที่ส่วนใหญ่แล้วเราจะส่งแค่ครั้งเดียวเท่านั้นค่ะ เช่น อีเมลล์คอนเฟริมออเดอร์ หรืออีเมลล์แจ้งให้สมัครรับข่าวสารต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่อีเมล์ล์ลักษณะนี้จะตั้งเป็นอีเมลล์อัตโนมัติ โดยการเขียนอีเมลล์ในลักษณะนี้จะมีเคล็ดลับและเทคนิคอย่างไร ติดตามได้กันในบทความหน้านะคะ

สำหรับใครที่สนใจความรู้ใหม่ ไอเดียในการทำธุรกิจ การสร้างอาชีพ การตลาดออนไลน์ การพัฒนาตัวเอง ที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จสามารถแนะนำหัวข้อที่อยากรู้เข้ามาได้โดยการ comment ไว้ด้านล่างนี้ หรือในช่องทางโซเชียลมีเดียของเรา ไม่ว่าจะเป็นที่ แฟนเพจตลาดปัญญา  หรือลงทะเบียนสมัครสมาชิกเว็บไซต์ (ฟรี) >>คลิก!สมัครสมาชิก<<

 

ต้องการอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม >> คลิก

แล้วพบกันใหม่ ในบทความหน้านะคะ

บรรณาธิการ : ตลาดปัญญา.com แหล่งรวมคอร์สออนไลน์คุณภาพ

logot

 

 

 

 

 

 

ความเห็น

Logo โลโก้ ตลาดปัญญาCopyright © 2014-2024 บริษัท โค้ช มาร์เก็ตติ้ง จำกัด All rights reserved ห้ามคัดลอก เลียนแบบ ทำซ้ำ ดัดแปลง ซึ่งรูปแบบและเนื้อหาทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของเว็บไซต์นี้          

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก
คอร์สไหน..
จะเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณ?