
ก่อนหน้านี้ผมเคยพูดถึงเทศกาลสำคัญ อย่างเทศกาลปีใหม่ วันพ่อ-วันแม่ เมื่อมาถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ทั้งที ก็ขอพูดถึง “วันแห่งความรัก” หรือที่รู้จักกันอย่างภาษาสากลว่า วันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) ที่กลายเป็นวันที่ได้ชื่อเล่นว่า…”วันเสียตัว” แห่งชาติของวัยรุ่น…ซึ่งเกิดจากค่านิยมผิดๆ ไปซะแล้ว
ก่อนที่เราจะเรียนรู้วิธีรักอย่างไรให้ไม่ทุกข์…ในวันแห่งความรัก…ก่อนอื่นเราจะทำความรู้จักกับที่มาที่ไปของ วันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) กันครับ
ที่มาของวันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day)
วันวาเลนไทน์ ที่มีชื่อเต็มว่า วันนักบุญวาเลนไทน์ (อังกฤษ: Saint Valentine’s Day) ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองของนักบุญในศาสนาคริสต์ยุคแรก วาเลนไทน์แห่งโรม (Valentinus presb. m. Romae) ผู้พลีชีพเพื่อศาสนาราว ค.ศ. 269 ในช่วงการเบียดเบียนคริสต์ศาสนิกชนในรัชสมัยจักรพรรดิออเรเลียน วันวาเลนไทน์ถูกกำหนดขึ้นครั้งแรกโดยสมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ 1 ใน ค.ศ. 496
วันวาเลนไทน์มาข้องเกี่ยวกับรักแบบโรแมนติกเป็นครั้งแรกในแวดวงสังคมของเจฟฟรีย์ ชอเซอร์ ช่วงกลางสมัยกลาง (High Middle Ages) ที่มีประเพณีรักเทิดทูน (courtly love) เฟื่องฟู จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 วันวาเลนไทน์ได้วิวัฒนาการมาเป็นโอกาสซึ่งคู่รักจะแสดงความรักของพวกเขาแก่กันโดยให้ดอกไม้ ขนมหรือลูกกวาด และส่งการ์ดอวยพรกัน
เมื่อวันเวลาเปลี่ยนไป…ค่านิยมต่างๆ เกี่ยวกับเทศกาลวันวาเลนไทน์ ไม่ได้เป็นเรื่องเฉพาะของผู้นับถือศาสนาศริสต์อีกต่อไป คนทุกชาติทุกศาสนารู้จัก และใช้เทศกาลวันแห่งความรักนี้ แสดงออกถึงความรักที่มีให้กับคนที่รัก ในบริบทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก…พ่อ-แม่ เพื่อน คุณครู หรือแม้กระทั่งคนที่คุณรู้สึกดีด้วย อย่างเจ้านาย กิ๊ก หรือบ้านเล็กบ้านน้อย หรือคนรักที่คุณพร้อมจะพลีกายให้
ณ ปัจจุบันนี้ สิ่งที่เปลี่ยนวันแห่งความรักกลายเป็นวันแห่งความทุกข์ของคุณได้ นั้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะเราจะได้ยิน ได้เห็นข่าว หรือสถิติเกี่ยวกับการใช้วันแห่งความรักไปในทางที่ผิด อันเนื่องจากความเข้าใจผิดๆ การตีความผิดๆ
อันเนื่องจากมาตรฐานของคุณธรรมในใจคน ค่านิยมผิดๆ ความอ่อนด้อยในเรื่องของวัยวุฒิ และวัฒนธรรมของการเปิดกว้างทางเพศนั้นทำให้วันวาเลนไทน์กลายเป็น “วันเสียตัว” แห่งชาติของวัยรุ่นไปซะแล้ว
ที่นำมาถึงปัญหาอีกมากมาย อย่างเช่น การหลงมั่วเมาในความรัก การตั้งครรภ์ก่อนกำหนด ปัญหาเรื่องเรียนไม่จบ หรือการตัดสินใจทำแท้ง หรือจบชีวิตตัวเอง ซึ่งเป็นการสรร้างบาป สร้างกรรมให้กับตนเอง
วันวาเลนไทน์…รักอย่างไรให้ไม่ทุกข์
สิ่งสำคัญที่ทำให้คุณรักอย่างไรให้ไม่ทุกข์ ก็คือการตั้งทัศนคติ และค่านิยมที่ถูกต้องเหมาะสม และการผนวกเอาหลักคุณธรรมมาใช้ในวันแห่งความรัก เพราะการรัก…โดยไม่มีหลักคุณธรรม ไม่มีจริยธรรม ไม่มีหลักเมตตาธรรม หรือ สติคอยกำกับไว้นั้นก็คือ…
ความรักแบบหลงทิศ หลงทาง จนตกเป็นทาสของความหลงผิด การเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ จนทำให้ลงมือทำในสิ่งผิดๆ ที่นำมาซึ่งความทุกข์มหันต์ ที่ไม่ใช่แค่ส่งผลกระทบกับคนสองคนที่รักกันแต่ยังทำให้คนรอบข้างที่อยู่ในสังคมต้องเป็นทุกข์ด้วย
ผมขอยกตัวอย่างที่จะทำให้เห็นภาพของความรักแบบหลงทิศทาง ซึ่งก็คือการที่คู่รักอีกหลายคู่ที่คิดว่าการเสียสละตัวเองให้กับคนรักในวันวาเลนไทน์ หรือการตัดสินใจใช้วันแห่งความรักเพื่อพิสูจน์ความรักนั้นทำให้คนรักมีความสุข และรักเรามากขึ้น นั้นกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกข์ทั้งชีวิต จากการตั้งครรภ์ หรือปัญหาการใช้กำลังเพื่อบังคับขมขืนใจคู่รัก
อันที่จริงแล้ววันแห่งความรักนั้น ไม่ใช่วันแห่งการพิสูจน์รักแท้…วันเสียตัว หรือวันแห่งชัยชนะเหนือคนที่คุณรัก แต่เป็นวันที่คุณใช้ความรักในการสร้างความสุข ให้กับคนที่คุณรัก ให้กับพ่อ-แม่ พี่น้อง และคนที่อยู่รอบๆ ตัวคุณ…ซึ่งเป็นความรักที่เต็มไปด้วย…
“ความห่วงใย ความใส่ใจ การให้ ความเข้าใจในธรรม และสติสัมปชัญญะ”
นั้นคือความรักที่ควรค่าในการแบ่งปัน…คุ้มค่าในการรัก และการเป็นที่รัก ที่ทำให้คุณมีวันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) ที่มีความสุขที่สุดของคุณได้ตลอด 365 วัน
แด่ความรักและความสำเร็จของคุณเอง
อนุสรณ์ เมืองศรี
Happy Life Coach at BlogPanya
ติดตามแฟนเพจของ อนุสรณ์ เมืองศรี ที่นี่
ร่วมแบ่งปันสิ่งดีกับ Blog ปัญญาด้วยการ กด like, กด Share, กด Follow หรือ Google+1 หรือแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ใน Comment Box ด้านล่างนี้ครับ