
New ได้ยินคำนี้ ก็คงจะต้องนึกถึงอะไรใหม่ๆ ใช่แล้วจ้า New TOEIC ก็คือ ข้อสอบ TOEIC รูปแบบใหม่ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในเร็วๆนี้ แล้วข้อสอบจะเปลี่ยนแปลงอย่าไรบ้าง วันนี้ ตลาดปัญญา จะหาคำตอบมาให้กับผู้ที่สนใจสอบ TOEIC ด้วยการไปถามถึง กูรู ทางด้าน TOEIC ตัวจริง!! จุฬาติวเตอร์ (https://www.chulatutor.com/toeic/ ) ว่าข้อสอบ TOEIC แบบใหม่คืออะไร? ทำไมต้องรีข้อสอบใหม่ด้วย
ทำไมต้อง New TOEIC ?
ที่มีการปรับปรุงข้อสอบแบบใหม่ ก็เพราะว่าข้อสอบ TOEIC นั้น วัตถุประสงค์คือต้องการทดสอบการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันของคนทำงาน คนมาสอบส่วนใหญ่จะเป็นคนที่สอบเพื่อนำไปใช้ในการสมัครงาน ซึ่งต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ทีนี้ ตัวข้อสอบเดิมก็ใช้มาหลายปีแล้ว และทุกวันนี้โลกของการสื่อสารก็พัฒนาขึ้นทุกวันๆ จากแต่ก่อนเราส่งข้อความจากโทรศัพท์มือถือ ทุกวันนี้เราหันมาใช้ Application LINE ใช้เพื่อ Chat หากัน LINE นั้นถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการทำงานจนแทบจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และนั่น ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของข้อสอบค่ะ เพื่อที่จะให้ทันยุคสมัย และปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์การสื่อสารในปัจจุบันมากขึ้นนั่นเอง (ในข้อสอบ TOEIC แบบใหม่ ก็มีการออกข้อสอบลักษณะ Chat LINE ด้วยจ้า ตามเทรนด์โลกสุดๆ)
อะไรที่แตกต่างจากเดิมบ้างอ่ะ?
Topic | OLD TOEIC Listening | NEW TOEIC Listening |
Part 1 – Photograph | 10 | 6 |
Part 2 – Question Response | 30 | 25 |
Part 3 – Conversations | 30 | 39 |
Part 4 – Talks | 30 | 39 |
Topic | OLD TOEIC Reading | NEW TOEIC Reading |
Part 5 – Incomplete sentences | 40 | 30 |
Part 6 – Text Completion | 12 | 16 |
Part 7 – Passage | Single/Double passage 48 |
Single/Double/Multiple passage 54 |
Total | 100 | 100 |
ความยาก/ง่ายของข้อสอบ TOEIC ล่ะ?
TOEIC Listening นอกจากการปรับจำนวนข้อแล้ว ข้อสอบ TOEIC แบบใหม่จะปรับให้เข้ากับโลกยุคปัจจุบันมากขึ้น เช่น Conversations ก็จะเพิ่มบทพูดเป็น คน 3 คนคุยกัน เพราะเวลาคุยงานในชีวิตจริงก็อาจจะมากกว่า 2 คนอยู่แล้ว เราก็ต้องตั้งใจฟังมากขึ้น ที่น่าสนใจคือ จะมีรูปภาพประกอบ อาจเป็นตารางเล็กๆ ข้อมูลย่อยๆ มาช่วยในการหาคำตอบ ซึ่งก็เป็นอะไรที่เหมาะสม ยอมรับได้ อาจใช้ข้อมูลมากขึ้นในการหาคำตอบ แต่ถือว่าครอบคุลมค่ะ ส่วน Talks ก็จะมีปรับในเรื่องของคำถาม เช่น What most likely is the speaker? What are the listeners asked to do? ซึ่งตรงนี้ ถ้าใครจับใจความหรือแนวเรื่องได้ ก็ตอบคำถามข้อนี้ได้แล้วค่ะ
TOEIC Reading ปรับเยอะอยู่เหมือนกัน จริงๆ ไม่ได้ยากขึ้นหรอกค่ะ แค่ทันสมัยมากขึ้น อย่าง Text Completion ก็ปรับเป็นไม่มีตัวเลือกแทรกระหว่าง Text แต่จะมาในลักษณะ Cloze test ที่ให้อ่านรวดเดียวเลย และตัวเลือกอยู่ด้านล่าง ส่วน Passage ก็อิงจากการอ่านข้อมูลในปัจจุบันที่เราต้องอ้างอิงข้อมูลจากหลายแหล่งก่อนจะได้สิ่งที่ต้องการ Multiple Passage ก็แค่เพิ่มข้อมูลที่ต้องอ่านเพิ่มมา แต่การถามรายละเอียดก็คงเดิม และยังมีลักษณะเป็น Conversation ใน Chat LINE มาถาม ซึ่งเวลาเรา Chat มันก็จะระบุเวลาที่เราพิมพ์ไป คำถามก็จะยกมาถามว่า ข้อความที่คู่สนทนาตอบ LINE ณ เวลา….. ไป สื่อได้ถึงอะไร เราก็ต้องอ่านบทสนทนาภาพรวม เพื่อที่จะหาคำตอบ คำศัพท์คงไม่มีอะไรยากหรือง่ายขึ้น จะสอบอะไรก็ต้องท่องศัพท์อยู่แล้ว เพราะเป็นพื้นฐานของภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้น อย่ากังวลไปค่ะถ้าเราเตรียมตัวสอบ TOEIC ให้พร้อม ไม่ว่าจะรูปแบบไหน เราก็จะสามารถทำได้
โอกาสในการทำคะแนน TOEIC 700+
ก่อนอื่นต้องไม่กังวลไปเกินเหตุค่ะ ว่าพอเปลี่ยนรูปแบบแล้วต้องยากขึ้น อย่างที่บอกว่า ปรับเพื่อทำให้ข้อสอบ TOEIC ทันสมัย เหมาะกับสภาพการสื่อสารในปัจจุบันมากขึ้น ดังนั้น เราก็ใช้ทักษะของเราที่เรามีในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน คู่กับการฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษที่เราต้องทำอยู่แล้ว เพื่อเตรียมตัวสอบ TOEIC เราก็ฝึกทำข้อสอบไวยากรณ์ การอ่าน เพิ่มพูนคำศัพท์ ทำทุกอย่างที่ควรทำตามเดิมค่ะ สิ่งที่ควรเพิ่มคือ ความละเอียดและความไวในการทำข้อสอบ เพราะยุคนี้ อะไรๆ ก็ต้องรวดเร็ว อยากย้ำเสมอว่า ไม่ใช่คนเก่งภาษาอังกฤษทุกคนได้คะแนน TOEIC สูง คนที่มีทักษะการสื่อสารที่ดี ทำข้อสอบได้รวดเร็ว แต่ไม่ได้เทพภาษาอังกฤษขนาดฝรั่งจ๋าหลายต่อหลายคน กลับได้คะแนน TOEIC 700+ เยอะแยะมาก นี่แสดงให้เห็นว่า อยู่ที่การฝึกฝน สมาธิ และการทำข้อสอบให้ได้มากที่สุด เพราะการทำ TOEIC ต้องถูกต้องและรวดเร็วค่ะ
สำหรับวันนี้ทีมงาน ตลาดปัญญา ขอจบเพียงแค่นี้นะคะ ส่วนฉบับหน้าจะเป็นเรื่องอะไร ต้องรอพบกันในฉบับหน้าค่ะ