การขึ้นเป็นที่หนึ่งนั้นยากแล้วแต่การรักษาสถิติการเป็นที่หนึ่งติดต่อกันนั้นยากกว่า ซึ่งก็เหมือนกับการเป็น มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของประเทศไทยได้ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี ติดต่อกัน อย่างคุณ ธนินท์ เจียรวนนท์ หรือที่เรียกกันติดปากว่าว่า เจ้าสัวธนินท์ หรือ เจ้าสัว ซี.พี. นั้นเองที่มีคู่แข่งที่พยายามแซงหน้า และต้องการชิงตำแหน่งที่หนึ่งของเจ้าสั่ว ซีพีนั้นเอง
ซึ่งในวันนี้ผมจะมาพูดถึงชีวิตของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของประเทศไทยได้ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี ติดต่อกัน ซึ่งในปี 2556 นี้คุณ ธนินท์ เจียรวนนท์ มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 3.93 แสนล้านบาท (เอง) เพิ่มขึ้น 1.12 ล้านบาท จากการปี 2555
ประวัติ เจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์
เจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์ (มีชื่อจีนว่า เจี่ย ก๊กมิ้น) กิดเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2482 เป็นบุตรชายของนายเจี่ย เอ็กชอ และ นางกิมกี่แซ่ตั้ง โดยมีพี่น้องรวม 9 คนเป็นชาย 4 คนและหญิง 5 คน โดยนายธนินท์เป็นบุตรคนสุดท้อง ในตระกูลชาวจีนแต้จิ๋วที่ทำมาค้าขายเกี่ยวกับอาหารสัตว์ในย่านเยาวราช
เจ้าสัวธนินท์ได้เข้าเรียนประถมที่โรงเรียนสารสิทธิ์วิทยา จังหวัดราชบุรี และได้ไปเรียนต่อที่ซัวเถาประเทศจีนเพื่อให้ได้ฝึกภาษาจีน และเมื่ออายุได้ 16 ปีก็ได้เลือกเรียนต่อในฮ่องกงเพื่อต้องการรู้จักเรื่องการค้าได้มากขึ้น จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาด้านพาณิชยกรรมที่ฮ่องกงนายธนินท์เริ่มต้นทำงานเป็นครั้งแรกที่ร้านเจริญโภคภัณฑ์ เมือตอนอายุ 19 ปี
ต่อมาได้โยกย้ายไปทำงานที่สหพันธ์สหกรณ์ค้าไข่แห่งประเทศไทยและบริษัทสหสามัคคีค้าสัตว์จำกัด ที่ทำให้เขาได้เรียนรู้ถึงการทำงานที่เกี่ยวเนื่องกับภาครัฐ การคลุกคลีกับนักวิชาการ รวมถึงกิจการหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ จากต่างประเทศ จนกระทั่งเมื่ออายุ 25 ปี ได้กลับมาทำงานอีกครั้งที่เจริญโภคภัณฑ์อีกครั้ง
แล้วได้แสดงฝีมือตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นสร้างธุรกิจเครือเจริญโภคภัณฑ์ เมื่อทำงานอยู่ที่ฝ่ายบริหารทั่วไปและการตลาดในช่วงที่ ราคาอาหารสัตว์ได้ตกต่ำลงเนื่องจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นและมีการตัดราคา รวมถึงการปลอมปนอาหารสัตว์ ทำให้ไม่สามารถควบคุมคุณภาพของอาหารสัตว์ได้ ดังนั้นถ้าจัดการในด้านนี้ได้ ก็จะสามารถได้ส่วนแบ่งกลับคืนมาพอสมควร จากการควบคุมคุณภาพของอาหารสัตว์
ด้วยการเริ่มผสมและขายอาหารสัตว์สำเร็จรูปที่บรรจุในซองแทนการขายวัตถุดิบอาหารสัตว์เพียงอย่างเดียว ซึ่งได้รับการยอมรับถึงคุณภาพที่นำไปเลี้ยงสัตว์แล้วได้สัตว์คุณภาพดี ซึ่งการคิดสูตรผสมนี้ได้ถูกพัฒนาตลอดเวลาโดยการนำผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นนักวิชาการมาควบคุมดูแลอีกทีด้วย
เมื่อขายได้ดีขึ้นเขาจึงทำการขยายโดยการซื้อเครื่องจักรใหม่ที่มีคุณภาพเพื่อผลิตของที่มีคุณภาพ และได้ทำการเปลี่ยนนโยบายการขายจากรับ ( ตั้งร้านขายอยู่กับที่ ) เป็นนโยบายเชิงรุก ( นำเสนอสินค้าขายโดยตรงตามบ้าน ) รวมไปถึงการทำงานที่อดทน มานะบากบั่นในการขายสินค้าไปยังต่างประเทศด้วย
ปัจจุบัน “ธนินท์ เจียรวนนท์” เป็นผู้บริหารระดับสูงของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รับผิดชอบบริหารงานในตำแหน่งประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ดูแลธุรกิจในหลายๆ เซกเมนต์ในตลาด ทั้งโทรคมนาคมด้วยทรู คอร์ปอเรชั่น ทรูมูฟธุรกิจประกันภัย, ธุรกิจค้าปลีกอย่าง 7-11 , ธุรกิจค้าส่งกับ เครือข่ายธุรกิจแมคโคร,อาหารสัตว์สำเร็จรูป, การเลี้ยงสัตว์บก และสัตว์น้ำในรูป “ ฟาร์มข้อตกลง ( Contract Farming ) ระหว่าง ซีพี กับเกษตรกร, การแปรรูปเนื้อสัตว์ ,อสังหาริมทรัพย์ ในแบรนด์ ซีพีแลนด์ และ แมกโนเลีย
เราได้รู้จักเจ้าสัว ธนินท์ในมุมของนักธุรกิจแสนล้าน และมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของประเทศไทย แล้ว เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ยังเป็นตัวแทน ของผู้นำที่ประสบความสำเร็จที่มีทั้งความเข้าใจ และวิสัยทํศน์ในการทำในสิ่งที่ตนถนัด ด้วยการนำเสนอ “ทฤษฎีสองสูง” ในรายการ “จับเข่าคุย” ทางช่อง 3 หรือการใช้ชีวิตที่เป็นแบบอย่างให้คนที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต สามารถนำไปใช้สร้างตัวเองได้อย่างที่คุณ ธนินท์ เจียรวนนท์ สามารถกลายเป็นมหาเศรษฐีระดับแสนล้านบาท ในช่วงอายุตนเองครับ
แด่ความสำเร็จของคุณเอง