หนึ่งในกระบวนการของการตลาดก็คือ การสร้าง Brand Awareness หรือการทำให้ผู้คน (โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดของเรา) รู้จักเรา และอีกหนึ่งกระบวนการที่สำคัญก็คือ การสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย
ฟีเจอร์ ‘ถูกใจ’ (กด Like) ของ Facebook นั้นเป็นอะไรที่เยี่ยมยอดมากที่ช่วยในกระบวนการทั้งสองนี้ เหตุเพราะว่าเมื่อใครสักคนกดไลค์ให้หน้าเพจ รูป หรือข้อความอัพเดทในเพจของเรา เพื่อนๆ ของเขาจะเห็นเหตุการณ์นี้ในกระดานข้อความของบุคคลนั้น เมื่อเพื่อนๆ ของเขาเห็น และสงสัยหรือสนใจ ก็จะคลิกเข้ามาดู ซึ่งก็อาจทำให้เกิดการคลิก Like ต่อไปอีกเรื่อยๆ (เป็น Viral Effect) หรือไม่ก็คลิก Like หน้าแฟนเพจของเราให้อีก นี่แหละคือสิ่งที่ผมบอกว่าปุ่ม Like มันช่วยในกลไกการสร้าง Brand Awareness ให้กับเรา
นอกจากนั้น เมื่อเราโพสต์ข้อความอัพเดทใหม่ๆ ใครก็ตามที่เคยมากด Like ให้หน้าแฟนเพจของเราจะได้รับ (เห็น) โพสต์ใหม่ของเรานี้ทันที (บน News Feed ของเขา) ไม่ว่าเราจะโพสต์รูป ลิ้งค์ ข้อความ ฯลฯ ก็เห็นหมด ซึ่งก็เป็นการสนับสนุนในเรื่องการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย
บทความในวันนี้ เขียนแบบเบาๆ สำหรับนักธุรกิจที่ใช้ Facebook Fan Page เป็นช่องทางในการทำการตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่สร้าง Fan Page แล้ว ต้องการให้มีคนมากดไลค์เยอะๆ หรือเวลาที่โพสต์ข้อความอัพเดท (หรือรูปภาพ/ลิ้งค์ ฯลฯ) ให้มีคนกดไลค์เยอะๆ
5 วิธีทำให้คนกดไลค์เยอะๆ
1. อย่าทำตัวน่าเบื่อ – ก็เหมือนคุณเดินเข้าไปในงานปาร์ตี้นั่นแหละ ถ้าไม่มีอะไรดีๆ จะพูด ก็สงวนท่าทีไว้ซะจะดีกว่า นึกภาพนะครับ สมมุติว่าเป็นงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อน เพื่อนๆ มากันเต็มเลย บรรยากาศกำลังดี ดนตรีขับกล่อม เบียร์ไวน์สต๊อกไว้เพียบ ทุกคนกำลังทักทายกัน ทันทีที่เจอเพื่อนหน้าเก่าที่ไม่ได้พบกันมานาน คงไม่มีใครเริ่มบทสนทนาด้วยการบ่นเจ้านายว่าช่วงนี้ให้งานเยอะ จู้จี้ หรือไม่คุณก็คงไม่อยากเดินเข้าไปในวงที่ใครบางคนกำลังเล่าแต่เรื่องของตัวเองใช่ไหมครับ
ใน Facebook ก็เหมือนกัน Status Update เป็นที่ๆ คุณสามารถเขียนถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ แบ่งปันเรื่องราว (ที่คนอื่นสนใจ) เป็นที่ๆ คุณสอบถามความเห็นคนอื่น หรือไม่ก็เล่าเรื่องราวสั้นๆ ที่คนอื่นน่าจะอยากรู้ นั่นก็คือว่า เราเข้าไปหาความสนุกสุขใจ และกลับกัน เราก็แบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับคนอื่นด้วย
ผมเสริมให้อีกนิดหนึ่งว่า จากผลการวิจัยล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2555 ที่ผ่านมานี่เอง พบว่าการโพสต์สิ่งที่ให้ความรู้สึก “เป็นบวก” มีแนวโน้มที่จะมีคนมาคลิก Like ให้มากกว่าแบบตรงข้าม ดังนั้น ถ้าเปรียบเปรยกับงานปาร์ตี้อีกครั้ง คุณก็ทำหน้าชื่นเข้าไว้ ใครจะอยากคุยกับคนหน้าบูด จริงไหมครับ
2. ทำตัวเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน – ลองมองหาแฟนเพจของคนอื่นที่มีจำนวนคน Like พอๆ กับเรา แล้วติดต่อขอแลกโพสต์กัน (ก็เหมือนการแลกลิ้งค์ในเว็บไซต์นั่นแหละ) ขอให้เขาโพสต์สิ่งที่คุณอยากจะเขียน แล้วคุณก็เสนอตัวโพสต์ข้อความที่เขาอยากเขียนในเพจของคุณบ้าง แลกกัน อย่างนี้เราก็ได้ fan base ของเขามาเพิ่ม แฟร์ไหมครับ
ลองมองหา Facebook Fan Page ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเดียวกับเรา อย่าถึงกับไปขอแลกกับเพจคู่แข่งล่ะ ไม่ใช่ไม่ดีกับเขาหรอก แต่มันคงไม่ดีกับคุณมากกว่า อิอิ
3. อย่าเขียนแต่เรื่องของตัวเอง – ไม่มีใครเขาสนหรอกว่าคุณจะไปดินเนอร์กับแฟนมาอย่างโรแมนติก หรือว่าแมวของคุณป่วย คนข้างบ้านเสียงดัง ในทางจิตวิทยา คนเราจะสนใจในเรื่องของตัวเอง เรื่องที่เกี่ยวข้อง/มีผลกับตัวเอง หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เขามีความสุขกาย/สุขใจ คุณจะรู้สึกยังไงถ้าไปทานข้าวกับคู่เดทของคุณแล้วอีกฝ่ายก็ตั้งหน้าตั้งตาพูดแต่เรื่องของตัวเองโดยไม่ถามเรื่องของคุณสักคำ ดังนั้น ถ้าเราอยากให้คนรู้สึกดีกับเรา เราก็ต้องแบ่งปันในสิ่งที่คนอื่นเขาสนใจ ง่ายๆ ไหมครับ
Facebook ไม่ใช่ช่องทาง “ป่าวประกาศทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณ” โพสต์หรือเพจของคุณจะได้รับ Like มากขึ้นถ้าคุณรู้จักเข้ากลุ่ม ฟังบ้าง พูดบ้าง ให้และรับ พูดง่ายๆ คือมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ผลการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ชี้ให้เห็นว่า เวลาที่เขียนอัพเดทบน Facebook ถ้าใช้คำว่า ‘คุณ’ จะได้รับการกดไลค์มากกว่าการใช้คำว่า ‘ผม/ฉัน’
4. อย่าสั้นซะจนน่าเกลียด – แต่ก็อย่ายาวเกินไป งงไหมครับ ผมหมายถึงสิ่งที่เขียนในการอัพเดทกระดานข้อความครับ ผลการศึกษาระบุว่า โพสต์ที่ยาวมีแนวโน้มที่จะถูก Like มากกว่าโพสต์ที่สั้น
ผมไม่ได้บอกให้คุณเขียนยาวเป็นนิทานนะครับ รู้จักคำว่า ‘ทางสายกลาง’ ไหมครับ นั่นแหละ แล้วก็ไม่ใช่สั้นจนเป็นประเภท ‘หวัดดี’, ‘เป็นไงบ้าง’, ‘เบื่อ’, ‘เซ็ง’ อะไรอย่างนี้นะครับ อย่างนี้ใครจะมา Like ครับ
5. อย่าทำตัวจอมปลอม – ถ้าคุณเห็นใครสักคนหมั่นโอ้อวดความมั่งมี ความสำเร็จ ข้อความบนกระดานมีแต่เรื่องราวดีๆ ในชีวิต สักพักคุณคงรู้สึกว่า..ไอ้นี่ไม่น่าจะเป็นของจริง ใช่ไหมครับ ไม่มีใครมีชีวิตที่เยี่ยมยอดไม่มีที่ติขนาดนั้นหรอก ถ้าคุณสติยังดี คุณต้องดูออกแน่ๆ
สัมพันธภาพเกิดขึ้นกับคนที่มีตัวตน เข้าถึงได้ เปิดเผย(เรื่องส่วนตัว)บ้าง มีสุข/ทุกข์ปะปนกันไป ดังนั้น ถ้าคุณต้องการให้มีคนกดไลค์เยอะๆ ผู้คนต้องไว้ใจคุณ รับรู้ได้ถึงความจริงใจและหวังดีของคุณ ‘รู้จัก’ คุณพอประมาณ เขาถึงจะเริ่มกด Like ให้กับหน้าเพจ และทุกๆ โพสต์ของคุณ
แถมวิธีที่ 6. เรียนรู้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว – ร้อยทั้งร้อย ไปถามดูได้เลย เพจใหญ่ๆ ทั้งหลายเมื่อย้อนกลับไปดูวันแรกๆ ที่เริ่มต้น มี Like อยู่แค่หลักสิบหลักร้อย สิ่งที่เขาทำกันก็คือการ “ลงโฆษณา” โดยทำไปเพื่อเป็นการ “Jump Start” ให้ยอดพุ่ง แล้วเมื่อติดลมบนแล้ว ความ viral ใน social media ประกอบกับเนื้อหาดีๆ ในเพจของเรา (ตามข้อ 1-5) จะทำงานของมันเอง
เรียนรู้ เข้าใจหลักการ และวิธีการอย่างเป็นระบบได้จากคอร์สของตลาดปัญญาคอร์สนี้นะครับ
เป็นไงบ้างครับ เบาๆ สมอง แต่ก็มีสาระ เพราะทั้งหมดนี้มีพื้นฐานอยู่บน ‘จิตวิทยา’ ของคน และก็อย่าลืมแบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ ของคุณบ้างนะครับ ส่วนคุณเอง..ก็อย่าลืม comment บทความด้านล่างนี้ด้วยครับ
แด่ความสำเร็จ
ธนกร – ผู้ก่อตั้งตลาดปัญญา